น้ำใจในน้ำเค็ม" ชุมชนบ้านแหลมนาว จ.ระนอง
สำหรับหมู่บ้านแหลมนาวนี้ เป็นชุมชนเก่าแก่อยู่มากว่า 300 ปี ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 จะมีประชากรทั้งหมด 226 คน ชุมชนนี้ประกอบอาชีพทำประมงตั้งแต่เกิด เมื่อก่อนการจับปูปลาสมบูรณ์ แต่ฤดูกาลนี้ไม่ค่อยดีเหมือนที่ผ่านมา
จากที่เคยได้วันละ 400-500 ไปจนถึง 1,000 บาท กลายเป็นวันละ 100 กว่าบาท หรือ 40-50 บาท ส่งผลให้ชุมชนเรารายได้ลดน้อยลง ทำให้เรือที่เหลืออยู่ มันเหลือน้อย
ส่วนไฟฟ้าของหมู่บ้านใช้เป็นโซลาร์เซลล์บางส่วน และเครื่องปั่นไฟ ใช้ตั้งแต่ 6 โมงเย็น จนถึง 4 ทุ่มครึ่ง
การใช้น้ำของชุมชนเป็นน้ำภูเขา ต่อท่อสิบกว่ากิโล เดินสายมาถึงหมู่บ้านเพื่อที่จะได้ใช้แต่ละครัวเรือน ซักผ้า กิน ดื่ม เป็นแบบเดียวกันหมดเลย พอมาจากภูเขาน้ำก็ไม่สะอาด ไม่ว่าเครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดีก็ตามถ้าน้ำไม่สะอาดเครื่องซักผ้าก็อาจจะทำงานได้ไม่ดีนัก
ผู้ใหญ่บ้านแหลมนาว เล่าว่า สาเหตุที่ไม่ได้ติดตั้งเครื่องกรองน้ำในชุมชน เพราะเครื่องกรองน้ำราคาสูงถึง 2-3 แสนบาท ซึ่งชุมชนแหลมนาวเป็นชุมชนเล็กๆ ไม่มีเงินมากพอ พิมรี่พายจึงเสนอติดตั้งเครื่องกรองน้ำให้เพื่อช่วยให้ชาวบ้านมีน้ำสะอาดใช้ ก่อนนำอุปกรณ์กรองน้ำมาติดตั้งที่บริเวณมัสยิดของหมู่บ้าน
โดยเครื่องกรองน้ำที่พิมรี่พายซื้อให้เหมือนกับโรงงานผลิตน้ำ เธอได้กล่าวว่า พิมอยากให้ชาวบ้านมีน้ำที่สะอาดทาน ตังค์ที่ลงไปเนี่ย ไม่ใช่ตังค์พิมนะคะ เป็นตังค์ที่คนไทยซื้อของพิม แล้วก็แบ่งมาให้คนไทยด้วยกันค่ะ